Wednesday, May 23, 2012

รักทางไกลให้สิ่งดี ๆ มากกว่าที่คุณคิด

รักทางไกลให้สิ่งดี ๆ มากกว่าที่คุณคิด

          ในขณะที่คนบางคนมี แฟนอยู่ใกล้ ๆ คอยเอาใจพาไปเที่ยวและโทรหาทุกวัน บางคนอาจมีแฟนที่ต้องห่างกันไปไกล เพราะเรื่องงานหรือเรื่องเรียน จนอดอิจฉาคนอื่นที่มีแฟนอยู่ใกล้ ๆ ให้คอยอ้อนไม่ได้ แต่รู้ไว้เถอะว่าการ มีรักทางไกลก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไป ถ้าคุณรู้จักวางตัวให้ดี บางทีรักทางไกลอาจช่วยให้ทั้งคุณและเขาเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แถมยังรักกันมากขึ้นได้อีกด้วย

          ซึ่งอย่างแรกที่คุณควรรู้ คือ สองสิ่งที่ขาดไม่ได้เพื่อให้ความสัมพันธ์ของคุณมั่นคง นั่นคือ คุณต้องเรียนรู้ที่จะ "เชื่อใจ" และ "เข้าใจกันและกัน" เพราะเวลาที่ห่างกัน คุณต้องอาศัยความเชื่อใจมากกว่าคนที่อยู่ใกล้กันเป็นเท่าตัว เพราะคุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่า เขาแอบไปมีคนอื่นบ้างหรือเปล่า ทั้งคุณและเขาจึงอดระแวงกันไม่ได้ แต่การอยู่ด้วยกันโดยไม่เชื่อใจก็คงไม่มีความสุข เพราะฉะนั้น ควรปล่อยวางและพยายามเชื่อใจกันและกันจะดีกว่า

          อย่างไรก็ตาม นอกจากความเชื่อใจแล้ว "ความเข้าใจ" ก็เป็นอีกสิ่งที่ขาดไม่ได้เหมือนกัน เพราะคงยากที่ความสัมพันธ์จะไปรอด ถ้าคุณยังทำตัวเรียกร้องเอาแต่ใจแบบเด็ก ๆ บางครั้งคุณก็ต้องเข้าใจเวลาที่เขาติดธุระจนโทรหาบ่อย ๆ หรือไปหาคุณในช่วงวันหยุดไม่ได้ เพราะเราเป็นผู้ใหญ่ที่มีภาระความรับผิดชอบมากขึ้น จึงทำอะไรตามความรู้สึกเพียงอย่างเดียวแบบเด็ก ๆ ไม่ได้อีกแล้ว
          ทั้งนี้ ถ้าลองมองในแง่ดี รักทางไกลอาจให้อะไรดี ๆ กับชีวิตมากกว่าที่คุณคิด เพราะนอกจากจะช่วยเป็นตัวทดสอบความรักของคุณแล้ว ยังช่วยให้คุณได้เป็นผู้ใหญ่และรู้จักพึ่งพาตัวเองมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้น อย่ากลัวถ้าจะต้องห่างกับคนที่คุณรัก แต่ควรพยายามปรับตัวกับความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไป เพื่อความรักของคุณดีกว่านะคะ

Tuesday, May 8, 2012

สีพาสเทล..เทรนด์สุดฮอตสำหรับหน้าร้อนนี้

pastel color

pastel color

pastel color

pastel color

pastel color

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอมขอขอบคุณภาพประกอบจาก rakuten.co.jp, notone.com, maruprice.net

          แฟชั่น ในช่วงหน้าร้อนนั้นควรเป็นอะไรที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายง่าย ๆ สบาย ๆ เพื่อให้คุณไม่รู้สึกอึดอัด และได้บรรยากาศแบบวันพักผ่อนของช่วงหน้าร้อนได้เต็มที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณมองหาได้จากสีพาสเทล โทนสีสุดคลาสสิกที่สื่อถึงความเรียบง่ายในวันสบาย ๆ ได้เป็นอย่างดี แถมยังเข้ากับเสื้อผ้าได้ทุกสไตล์อีกด้วย อย่างไรก็ตาม นอกจากการเลือกสีแล้ว การมิกซ์แอนด์แมตช์ให้ถูกวิธีก็ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพื่อให้เสื้อผ้าที่คุณใส่ออกมาดูดีเช่นกัน

          โดยคุณอาจเลือกเน้นการแต่งตัวแนวหวานที่สาว ๆ หลายคนปลื้มกันเป็นพิเศษ ด้วยการใช้สีพาสเทลแนวหวานแหวว เช่น สีไลแลค สีชมพู และสีฟ้า เพื่อให้คุณดูเป็นหนุ่มโรแมนติคมากขึ้น ซึ่งการแต่งตัวแนวนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ใส่เสื้อแขนสั้นโทนสีหวาน ๆ จับคู่กับกางเกงสีอะไรก็ได้ ที่ไม่สะดุดตามากนัก แล้วคลุมทับด้วยเสื้อนอกสีหม่น ๆ เช่น สีเทาหรือสีกากีก็ใช้ได้แล้ว นอกจากนี้ หากคุณอยากเพิ่มลูกเล่นให้ชุดดูมีชีวิตชีวามากขึ้น อาจแต่งด้วยเครื่องประดับสีสันสดใสอย่างผ้าพันคอหรือถุงเท้าเพิ่มก็ได้

pastel color

          อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นคนที่ชอบความสดใส กล้าที่จะแต่งตัวด้วยสีสด ๆ เพื่อเสริมความมั่นใจให้กับตัวเอง และดึงดูดความสนใจจากคนรอบข้างอยู่เสมอ สีพาสเทลที่ดูสดใส เช่น สีเทอร์ควอยส์ สีเขียว และสีส้ม อาจเป็นสีที่เหมาะกับคุณมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ควรใส่แต่สีสด ๆ ทั้งตัวจนดูแสบตามากนัก ควรใส่แค่เบลเซอร์สีสด ๆ แบบนี้ก็พอ แล้วเบรกด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวด้านใน กับกางเกงสีเรียบ ๆ จะดีกว่า

          ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเลือกแต่แฟชั่นพาสเทลแนวไหนก็แล้วแต่ ควรเลือกแบบที่เข้ากับสีผิวและรูปร่างของตัวเองด้วย เพื่อให้ออกมาดูดีถูกใจสาว ๆ มากที่สุดนะคร้าบ

ภาษากายของสาว ๆ อ่านได้ไม่ยากเลย!!



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
 
          ขึ้น ชื่อว่าเป็นคุณสาว ๆ แล้ว เรื่องของการเดาใจ หรือการอ่านใจของเธอนั้น บางทีผู้ชายอย่างเรา ๆ ก็ต้องขอบอกเลยว่าเป็นเรื่องที่ยากเอาการเหมือนกัน เพราะบทเธอจะดี ก็ดีแบบชวนซึ้ง แต่ถ้าวันไหนจะดราม่าขึ้นมา เราเองก็ปรับตัวตามไม่ทันเหมือนกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังมีอยู่สิ่งหนึ่งที่ผู้ชายอย่างเรา ๆ สามารถอ่านความรู้สึกนึกคิดของคุณผู้หญิงทั้งหลายได้ง่าย ๆ โดยดูจากสิ่งที่เรียกว่า "ภาษากาย" ของเธอนั่นเอง

          ภาษากายของสาว ๆ ที่แสดงออกมาให้เห็นนั้น ล้วนแล้วแต่มีความหมายแฝงอยู่ทั้งสิ้น ขอเพียงแค่ผู้ชายได้ใส่ใจและลองสังเกตให้ดี ๆ ก็จะรู้ว่า ภาษากายของสาว ๆ อ่านง่ายจริง ๆ สำหรับภาษากายของสาว ๆ ก็มีมากมายเลย ได้แก่..
 
1. เธอโชว์ "หน้าท้อง" ให้คุณเห็นซะงั้น

          แน่นอนว่าเธออาจจะไม่ได้ตั้งใจโชว์ให้เห็นแบบจะ ๆ เพราะอาจจะเป็นเพราะว่าเธอใส่เสื้อตัวสั้น เอวลอย ก็เป็นได้ แต่ในทางกลับกัน หากคุณเช็คอย่างแน่ดีแล้วว่า สาวเจ้าตั้งใจโชว์ให้คุณเห็นแบบไม่มีกั๊กแล้วล่ะก็ ขอให้มั่นใจเลยว่า เธอมองคุณแบบดุเดือดเผ็ดร้อน และต้องการให้คุณเทคแคร์เธอแบบใกล้ชิดและชิดใกล้ไปตลอดทั้งคืนเลยล่ะ

2. นิ้วอยู่ไม่สุข เล่นกับเส้นผมไปเรื่อย

          ถ้าคุณหันไปมองสาวที่คุณสนใจ แล้วพบว่าเธอคนนั้นมองตาคุณแบบหลบตาไปมา ขณะเดียวกัน มือของเธอก็อยู่ไม่สุข เล่นกับเส้นผมอยู่ตลอด ม้วนผมเล่นบ้าง ทำเป็นจัดทรงผมอยู่บ่อยครั้งแล้วล่ะก็ แต่น..แตน..แต๊น!! ขอแสดงความยินดีด้วย อากัปกิริยาแบบนี้หมายถึงว่า สาวที่คุณสนใจก็ให้ความสนใจในตัวคุณเช่นเดียวกัน ส่วนสาเหตุที่เธอเล่นกับเส้นผมอยู่บ่อย ๆ ก็เพราะต้องการให้คุณเห็นเธอดูดีอยู่เสมอนั่นเอง
 
3. เธอโชว์ให้เห็นถึง "เท้า" อันเปลือยเปล่า

          ถ้าเธอโชว์เท้าให้คุณเห็นก็อย่าเพิ่งตกอกตกใจไป ที่เธอทำแบบนั้นแสดงให้เห็นว่า เธอเห็นว่าคุณสามารถไว้เนื้อเชื่อใจได้ ในแง่ที่ว่าจะไม่ล้อเลียนเธอถึงการแสดงออกซึ่งความสบายส่วนตัวของเธอเองแบบ นี้ อีกทั้งยังเป็นการบอกให้รู้ด้วยว่า เธออยู่กับคุณแล้วสบายใจ สามารถทำอะไรหลาย ๆ อย่างได้อย่างเปิดเผยเต็มที่ แต่ถ้าเธอเกิดมีกลิ่นเท้าก็เตือน ๆ เธอบ้างนะ ขอเตือนด้วยความหวังดี.. ฮี่ ๆ

4. เพียงแค่เธอยิ้ม โลกก็สดใส

          ไม่มีสุขใดจะเท่ากับการได้เห็นคุณสาว ๆ ได้ยิ้มให้โลกมีความสวยงามมากขึ้นอีกแล้ว และความสุขนั้นจะมีมากขึ้นเป็นทวีคูณ ถ้าหากสาวเจ้าหันมายิ้มให้คุณแบบน่ารัก สดใส ๆ ดังนั้น หากจะอ่านได้อย่างง่าย ๆ ก็คือ เธอกำลังมีความสุขมากมาย ไม่ว่าคุณจะพูดอะไรไป เธอก็ยินดีที่จะรับฟังคุณด้วยความเต็มใจมาก ๆ เลย ฉะนั้น สานต่อความแฮปปี้ของเธอให้มีอย่างต่อเนื่องด้วยการให้เธอได้สนุกและยิ้มเยอะ ๆ เข้าไว้ รับรองว่า "ได้เรื่อง!"
 
5. เธอแตะเนื้อต้องตัวคุณ

          ระหว่างที่คุย ๆ กันอยู่ดี ๆ ฝ่ายสาวก็เอามือมาสัมผัสกับตัวคุณ ทั้งการตีตัวคุณเบา ๆ และการเอามือมาวางไว้บนหน้าตักของคุณแบบนี้เนี่ย นั่นหมายความว่า เธอให้ความสนิทสนมกับคุณมาก ๆ และอยากที่จะพูดคุยกับคุณต่อไปเรื่อย ๆ เพราะคุณเป็นคนที่สนุกสนาน ในทางกลับกัน ถ้าอยู่ดี ๆ เธอเริ่มไม่แตะเนื้อต้องตัวคุณ และเริ่มอยู่ห่างจากคุณมากขึ้น ๆ ก็ขอให้คุณเป็นกังวลได้เลยว่า คงมีบางอย่างที่ไม่ถูกใจเธอเข้าอย่างจังแล้วล่ะ
 
6. เธอก้มหน้าตลอดเวลาเลย

          จากการศึกษาแล้ว ทางผู้เชี่ยวชาญออกมาระบุว่า สาเหตุที่ฝ่ายสาวก้มหน้ามองพื้นซะเป็นส่วนใหญ่ แล้วหันมองทางซ้ายที ทางขวาที คืออาการที่บอกให้รู้ว่า เธอมีเรื่องบางอย่างที่ยังคิดค้าง ๆ คา ๆ อยู่ในใจ เช่น เธออาจจะคิดอยู่ว่า "ทำไมคุณพูดจาอะไรไร้สาระจังเลย" หรือไม่ก็ "คุณจะสนใจในตัวเธอบ้างไหมนะ" เป็นต้น

          ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณสามารถอ่านความคิดของเธอได้ง่าย ๆ ด้วยการลองถามเธอไปว่า "รู้นะ คุณคิดอะไรอยู่ ทุกอย่างยังโอเคอยู่ไหม มีปัญหาอะไรบอกกันได้นะ?" ง่าย ๆ เพียงเท่านี้ ก็จะเหมือนเป็นเปิดโอกาสให้เธอได้พูดสิ่งที่เธอคิดได้มากขึ้น แล้วคุณก็จะได้รู้ความรู้สึกนึกคิดของเธอมากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
 
7. คุณเธอยึดตู้เสื้อผ้าของคุณไปซะแล้ว

          เห็นจั่วหัวข้อไปแบบนั้น อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นเจ้าหนี้มายึดทรัพย์แต่อย่างใด หากแต่สำหรับใครที่ได้มีโอกาสอยู่กับสาว ๆ แล้ววันดีคืนดี คุณเธอก็มาบอกกับคุณว่าขอแบ่งพื้นที่ในตู้เสื้อผ้าไว้หน่อยแล้วล่ะก็ นั่นคือสัญญาณที่บ่งบอกให้รู้ว่า เธอเปิดรับตัวคุณมากขึ้น และอยากที่จะแบ่งปันชีวิตไปกับคุณมากขึ้นด้วยนั่นเอง

          ทั้งนี้ เรื่องของตู้เสื้อผ้าเป็นเพียงแค่ตัวอย่างที่เรายกขึ้นมาให้คุณ ๆ ได้อ่านแล้วเห็นภาพตามกันเท่านั้น ในกรณีนี้ยังมีแบบอื่น ๆ อีกมากมาย ยังไงซะก็อย่าลืมให้พื้นที่เธอเยอะ ๆ นะคุณหนุ่ม ๆ ถือซะว่าเป็นการซื้อใจกันไป
 
          และ ทั้งหมดก็คือภาษากายของคุณสาว ๆ คุณสามารถนำไปลองสังเกตดูได้ด้วยตัวของคุณเองได้อย่างง่าย ๆ ยังไงก็ขอให้ลองนำไปใช้กับสาว ๆ ของคุณดู แล้วคุณจะรู้ว่า ภาษากายของคุณสาว ๆ นั้น เป็นอะไรที่อ่านออกและรู้ทันได้ง่ายมากจริง ๆ ..

การดูแลสุขภาพ สำหรับผู้ชาย

การดูแลสุขภาพ ผู้ชาย


การดูแลสุขภาพ สำหรับผู้ชาย (Lisa)

         การตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้ง โดยเฉพาะชายวัยทอง ควรได้รับการตรวจค้นโรคมะเร็ง เช่น การตรวจระดับพีเอชเอในเลือด ซึ่งเป็นดัชนีของมะเร็งต่อมลูกหมาก เมื่ออายุ 40 ปี ควรไปรับการส่องลำไส้ใหญ่ประมาณ 5-10 ปี ต่อครั้ง จนไปถึงตลอดชีวิต เอ็กซเรย์ปอดปีละครั้ง และเมื่ออายุ 50 ปี ก็จะมีความเสี่ยงกับโรคมะเร็งต่อมลูกหมากโดยแพทย์


           หากมีอาการวัยทอง ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอพราะจะช่วยให้มีการระบายความร้อนของร่างกาย ระบบรูขุมขนทำงานดีขึ้น ควรฝึกสมาธิเพื่อปรับจิตใจเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

          หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดโรค เช่น ถั่วลิสง เพราะอาจเป็นสาเหตุของมะเร็งต่อมลูกหมาก ถ้ามีปนเปื้อนสารอัลฟ่าท็อกซิน ไม่รับประทานอาหารไขมันสูง เช่น ข้าวขาหมู หมูหัน ข้าวมันไก่ เพราะจะทำให้มีไขมันในเลือดสูง ซึ่งจะก่อให้เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคไขสมอง

           รับประทานผักและผลไม้สด แคลเซียม วิตามินอีเพื่อต่อด้านอนุมูลอิสระและป้องกันโรคกระดูกพรุน

           บริโภคอาหารที่เพิ่มภูมิต้านทานโรค ได้แก่ วิตามิน และเกลือแร่ ส่วนผู้ที่มีความดันสูงก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็ม ส่วนผู้ที่เป็นโรคเกาต์ ก็ต้องหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกเครื่องในสัตว์ คนที่เป็นเบาหวานก็ไม่ควรบริโภคน้ำตาลมากเกินไป

          นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการนอนน้อยจะทำให้เกิดความเสื่อมและแก่เร็ว

          อย่าให้อ้วน เพราะความอ้วนเป็นปัจจัยของโรคต่าง ๆ

          รับอากาศบริสุทธิ์ เพราะสภาพแวดล้อมที่เป็นมลภาวะก็จะมีความเสี่ยงต่อโรคทางเดินอาหาร และโรคมะเร็ง

          รับประทานอาหารย่อยง่าย เมื่อมีอายุมากขึ้น

           ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพราะมีการศึกษาพบว่า การดื่มน้ำให้เพียงพอสามารถป้องกันมะเร็งกระเพาะปัสสาวะได้ เพราะน้ำจะช่วยขับถ่ายของเสียออกไป

           ควรได้รับแคลเซียมและวิตามินดีให้เพียงพอ เพราะให้วัยทองกระดูจะบางลง จึงไม่ควรดื่มกาแฟมาก เพราะการดื่มกาแฟหนึ่งแก้วจะทำให้เสียแคลเซียม 20 มล. หรือดื่มวันละแก้วก็พอ และควรได้รับแสงแดดอ่อน ๆ ตอนเช้าด้วย

           หากมีปัญหาสมรรถภาพทางเพศ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาให้ถูกจุด ไม่ควรซื้อยาใช้เองเพราะอาจเจอยาปลอม หรืออาจมีอันตรายจากภาวะหัวใจวายได้


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

10 วิธี สร้างความสุขแบบง่าย ๆ ให้ชีวิตคุณ

10 วิธี สร้างความสุขแบบง่าย ๆ ให้ชีวิตคุณ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

           เพื่อน ๆ เคยลองถามตัวเองกันบ้างมั้ยครับว่า ทุกวันนี้คุณมีความสุขกับชีวิตของตัวเองอยู่หรือเปล่า? แล้วความสุขที่ว่าคืออะไร บางคนอาจบอกว่า ช้อปปิ้ง เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ หรือซื้อของราคาแพง ๆ เป็นของขวัญให้ตัวเอง จริงอยู่...ที่สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้สามารถให้ความสุขกับคุณได้ แต่ความรู้สึกเหล่านั้นคงอยู่ไม่นาน สุดท้ายก็เลือนหายไป...

           ความจริงแล้วคนจำนวนมากอาจหลงลืมไปว่า ความสุขที่แท้จริงอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด โดยที่ไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อแม้แต่สตางค์เดียว อาจเพราะบางทีคุณเผลอมองข้ามความสุขนั้นไปเอง... วันนี้เราจึงได้นำเคล็ดลับการสร้างความสุขแบบง่าย ๆ มาเผยให้ทราบกัน

10 วิธี สร้างความสุขแบบง่าย ๆ ให้ชีวิตคุณ

1. ออกกำลังกาย

           หลาย ๆ คน อาจเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วว่า การออกกำลังกาย สามารถสร้างความสุขให้กับคุณได้ เพราะการออกกำลังกายเผาผลาญพลังงาน ทำให้คุณมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีรูปร่างดี นอนหลับง่าย และช่วยลดความเครียดได้อีกต่างหาก

2. รู้จักควบคุมการทำงานของความคิดและจิตใจ

           ถ้าหากอยากให้ความคิดและทัศนะคติของคุณเป็นไปในเชิงบวก รวมทั้งรู้จักควบคุมจิตใจให้พร้อมรับมือกับปัญหาต่าง ๆ อย่างมั่นคง คุณน่าจะลองหาหนังสือที่ช่วยขัดเกลาความคิด และเป็นแรงบันดาลใจให้ทำสิ่งดี ๆ มาอ่านเพื่อพัฒนาสมอง รวมไปถึงหัดฟังธรรมะอยู่เป็นประจำ ซึ่งจะคอยช่วยเตือนสติให้จิตใจเข้มแข็งมากขึ้น

10 วิธี สร้างความสุขแบบง่าย ๆ ให้ชีวิตคุณ

3. ฉลองความสำเร็จให้กับตัวเองบ้าง

           เติมความสดชื่นให้ชีวิต โดยการฉลองความสำเร็จให้ตัวเองบ้าง เช่น โปรเจ็กท์งานที่มานะมากบั่นทำมานานหลายเดือน ได้รับการอนุมัติให้ผ่านแล้ว ซึ่งอาจจะชวนเพื่อนสนิทไปนั่งสังสรรค์กิน ดื่มเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ให้รู้สึกดีขึ้น และเหมือนเป็นการชาร์จไฟให้ตัวเอง ก่อนจะเริ่มต้นกับงานชิ้นใหม่อย่างมีพลัง

4. อย่าเครียดกับชีวิตเกินไปนัก

           ความเครียด คือ เป็นบ่อเกิดของปัญหาหลาย ๆ ชนิดที่จะตามมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจและร่างกาย ตั้งแต่ ความดันโลหิตสูง โรคนอนไม่หลับ โรคซึมเศร้า ไปจนถึงความวิตกกังวล ฉะนั้นหาเวลาออกไปทำกิจกรรมอะไรที่ตัวเองชอบ หรือเดินทางไปท่องเที่ยวไกล ๆ เพื่อผ่อนคลายความเครียดบ้างนะ

10 วิธี สร้างความสุขแบบง่าย ๆ ให้ชีวิตคุณ

5. ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน

           หากคุณเป็นคนที่ชอบหมกมุ่นอยู่กับปัญหาที่เกิดขึ้นไปแล้ว หรือหวั่นเกรงกับอุปสรรคที่กำลังจะผ่านเข้ามา รับรองเลยว่าคุณไม่มีทางสัมผัสช่วงเวลาแห่งความสุขได้เลย ซึ่งก็คือ ปัจจุบัน นั่นเอง อดีตคือ สิ่งที่จบไปแล้ว ส่วนอนาคตคือ สิ่งที่ยังมาไม่ถึง แล้วคุณจะมัวไปนั่งกังวลอยู่ทำไมล่ะ จงยิ้มให้กับวันนี้ที่มีความสุขจะดีกว่า

6. พยายามอยู่กับคนที่คิดบวก

           เชื่อไหมว่า สังคมที่เราเข้าไปคลุกคลีอยู่ด้วยมีผลต่อตัวคุณ ทั้งด้านความคิดและการกระทำ ซึ่งถ้าหากคุณใช้ชีวิตอยู่กับกลุ่มคนที่มีความคิดเชิงบวก คุณก็จะได้รับอิทธิพลจากพวกเขาเหล่านั้นมาด้วยเช่นกัน จากนั้นคุณก็ค่อย ๆ กลายเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีกว่าเดิม และเห็นความสุขที่อยู่รอบตัวได้ชัดขึ้น

10 วิธี สร้างความสุขแบบง่าย ๆ ให้ชีวิตคุณ

7. รักษาความสัมพันธกับคนใกล้ชิดให้แนบแน่น

           ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว คนรัก หรือเพื่อนสนิท สิ่งสำคัญคือ คุณต้องพยายามรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับบรรดาคนสนิทเหล่านี้เอาไว้ให้อย่าง ยาวนานและมั่นคง อย่าให้ภาระเรื่องงานเข้ามาก้าวก่ายชีวิตส่วนตัว จนทำให้คุณต้องห่างเหินกับพวกเขา หรือถ้ามีปัญหาที่ไม่เข้าใจกัน ก็รีบเคลียร์ให้เรียบร้อย เพราะพวกเขาคือคนที่มีบทบาทในชีวิตของคุณเป็นอย่างมาก

8. เป็นมิตรกับคนรอบข้าง

           การมีมิตรไมตรีต่อเพื่อนมนุษย์ที่อยู่ร่วมกันในสังคมเดียวกัน ก่อให้เกิดความสุขขึ้นได้ทั้งต่อตัวเองและผู้อื่น เช่น ช่วยคนชราเดินข้ามถนน ช่วยคนถือของ ซึ่งแม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ความรู้สึกที่มอบให้ก็ยิ่งใหญ่พอที่ทำให้คุณรู้สึกอบอุ่นใจได้ไม่น้อย

10 วิธี สร้างความสุขแบบง่าย ๆ ให้ชีวิตคุณ

9. รู้จักเป็นฝ่ายให้

           "สุขใจที่ได้ให้มีคุณค่ากว่าสุขใจที่ได้รับ" ซึ่งการให้ที่ว่าไม่จำเป็นต้องแก้ว แหวน เงินทองหรือของมีค่าเท่านั้น แต่อาจเป็นการกระทำหรือคำพูดก็ได้เช่นเดียวกัน เช่น ให้เวลากับคนที่คุณรัก สละแรงช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ให้คำปรึกษาแก่เพื่อนที่กำลังมีปัญหา เพราะทุกครั้งที่คุณทำสิ่งดี ๆ ให้กับคนอื่น ก็เหมือนกับให้ความสุขกลับมาสู่ตัวเองทางอ้อม


10. มีความกตัญญูรู้คุณคน

           การเป็นผู้รู้จักทดแทนบุญคุณคือ สิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างให้คุณกลายเป็นคนที่น่านับถือที่ไม่เคยลืมว่าใคร เคยให้ความช่วยเหลือแก่ตนเองบ้าง ซึ่งการตอบแทนสิ่งดี ๆ คืนกลับไปให้ผู้มีพระคุณ ช่วยให้จิตใจตัวเองรู้สึกอิ่มเอมกับความสุขมากขึ้น...มากกว่าตอนที่ได้รับ ความช่วยเหลือด้วยซ้ำไป

           เอา ล่ะ เมื่อได้ทราบวิธีสร้างความสุขให้กับตัวเองที่เรานำมาฝากกันไปแล้ว คุณคงรู้แล้วว่า ความสุขที่แท้จริง บางทีมันก็อยู่รอบตัวคุณนั่นเอง เพียงแต่อาจจะต้องเปลี่ยนวิธีคิดและหันมามองสิ่งที่อยู่ใกล้ ๆ ตัวให้มากขึ้น เพราะถ้ารู้จัก "สังเกต" ก็สามารถ "สัมผัส" ความสุขได้ไม่ยาก

Saturday, May 5, 2012

อะไรที่ควรทำอะไรที่ต้องห้าม ถ้าอยากมีผิวสุขภาพดีตลอดกาล

Your Best Skin Ever! (Lisa)

          หัวใจสำคัญของการดูแลผิว ที่จะช่วยคงความสาวและสวยของผิวให้อยู่กับคุณไปนาน ๆ ถ้าคุณมี...

     ผิวมัน

       ควรใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีกรด Salicylic ล้างหน้าวันละสองครั้ง หรือใช้มาส์กสัปดาห์ละครั้งก็พอช่วยได้เหมือนกัน

       อย่าใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ระคายเคืองต่อผิว และมีแต่จะกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันออกมามากกว่าเดิม

     ผิวแห้ง

        ควรล้างหน้าด้วยสบู่ล้างหน้าสูตรอ่อนโยนที่ไม่มีฟอง แล้วตามด้วยมอยสเจอไรเซอร์

        อย่าใช้มอยสเจอไรเซอร์ที่เนื้อเข้มข้นเกินไป โดยแพทย์ผิวหนังจากแอลเอ เจลซิก้า วู กล่าวว่า "มันจะอุดตันอยู่ในรูขุมขนของคุณและก่อให้เกิดสิว ซึ่งจะทำให้ปัญหาผิวแย่ลงไปอีก"

       จุดด่างดำและรอยแดง

        ควรใช้มอยสเจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมจากถั่วเหลือง

        อย่าหยุดใช้ครีมกันแดด "ไม่ว่าคุณจะใช้ผลิตภัณฑ์ปรับผิวขาวมากแค่ไหน หากคุณเผชิญแสงแดดโดยไร้ SPF คุณก็มีแต่จะแพ้สงครามกับมัน" แพทย์ผิวหนังจากนิวยอร์ก เอเรีบล เคาวาร์ กล่าว

       รูขุมขนกว้าง

        ควรใช้ทรีตเมนต์ที่มีเรนตินอลในตอนกลางคืน "มันจะช่วยจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากรูขุมขน และช่วยลวงตาให้ดูเหมือนกับว่ารูขุมขนนั้นมีขนาดเล็กลง" แพทย์ผิวหนังจาก NYC ไฮดี้ เอ วาลดอร์ฟ กล่าว และควรจัดให้ครีมนี้รวมอยู่ในผลิตภัณฑ์กระชับรูขุมขนที่คุณใช้ประจำ

        อย่าเข้าใจผิดว่ารูขุมขนกว้างคือสิวเสี้ยนและบีบมันออกล่ะ เพราะนั่นจะยิ่งขยายให้มันกว้างขึ้นกว่าเดิมไปอีกระยะหนึ่งเลย

       ผู้ช่วยพิทักษ์ผิว

          งดไปพบแพทย์ผิวหนังกันได้เลย ถ้าทำตามแนวทางดี ๆ สำหรับการดูแลผิวประจำวันจากเรา

        ลองใช้ปลอกหมอนจากผ้าไหมดู หากคุณตื่นขึ้นมาพบกับรอยย่นบนผิวหน้า เนื่องจากผิวสัมผัสที่เรียบลื่นของหมอนผ้าไหมจะทำให้ผิวคุณไม่ฝังติดลงไปกับ หมอนนั่นเอง

        อย่าปล่อยให้ประโยชน์ของไอน้ำจากฝักบัวเสียเปล่า โดยใช้ไอน้ำช่วยเติมน้ำให้ผิวคุณ ทันทีที่คุณอาบน้ำเสร็จให้ซับผิวให้แห้งแล้วทาครีมทาผิวชนิดบัตเตอร์ทันที

        ลองลบเลือนรอยแดงด้วยยาหลอดตา หากแก้มคุณมีสีแดงจัด ลองหยดยาหยอดตาสักสองสามหยดลงในน้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ จุ่มสำลีลงไปแล้วนำไปประคบบนแก้มเพื่อให้เส้นเลือดที่ไหลเวียนใต้ผิวหดตัวลง แต่อย่าลืมทดสอบก่อนว่าจะทำให้ผิวเราระคายเคืองรึเปล่า

        อย่ามองข้ามเรื่องเล็กน้อย โทรศัพท์มือถือเป็นหนึ่งในตัวการที่ทำให้เกิดสิวบนใบหน้า แต่หากแบคทีเรียบนหน้าจอย้ายเข้าไปแอบอยู่ในรูขุมขน ก็ใช้สำลีจุ่มแอสตริงเจนต์เช็ดที่หน้าจอโทรศัพท์ หรือจะใช้อีกวิธีหนึ่งคืออย่าให้โทรศัพท์มือถือแนบกับผิวหน้าโดยตรง แต่ให้ถือห่างจากใบหน้าหน่อยก็ได้

       ใช้ผสมกันได้

          ไม่มีปัญหาถ้าคุณจะใช้ผลิตภัณฑ์จากหลายแบรนด์พร้อม ๆ กัน แม้ว่าคุณจะซื้อตามที่พนักงานเคาน์เตอร์ชักจูงก็ตาม แต่เตือนไว้อย่างหนึ่งว่าหากลงสกินแคร์ พร้อมกันหลายตัวทับลงไป อาจทำให้ผิวระคายเคืองก็ได้นะ

       บีบสิว...ควรหรือไม่ควร?

          เรารู้ว่ามันช่างน่าบีบซะจริง แต่แพทย์ผิวหนังจากนิวยอร์ก เอมี่ เวคส์เลอร์ ได้ให้คำตอบไว้ว่าไม่ควร อย่างไรก็ตาม หากคุณจำเป็นต้องบีบจริง ๆ ละก็ ให้ทำตามนี้เพื่อป้องกันการเกิดแผลเป็นหรืออักเสบติดเชื้อ หลังจากใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบให้ผิวนุ่มลงแล้ว ใช้ก้านสำลีกดลงไปที่สิวทีละข้าง ออกแรงกดอย่างเขบามือ เมื่อสิวหลุดออกให้ใช้สำลีจุ่มสกินแคร์ที่มีกรดซาลิไซลิกหรือเบนเซอยล์เพอร์ ออกไซด์แต้มหัวสิว จากนั้น ได้เวลาปล่อยสิวเม็ดนั้นไว้เฉย ๆ จริง ๆ แล้วล่ะ

       เทคนิคดูแลผิวอย่างฉลาดสำหรับสาวทุกช่วงวัย


            20s

        ช่วงเวลานี้คุณสาว ๆ ทั้งหลายสามารถสนุกกับผิวเนียนเรียบและกระจ่างใสได้เลย

        อย่าตกใจไปถ้าเริ่มเห็นเส้นริ้วรอยเล็กจิ๋ว เป็นเรื่องปกติที่มันจะเกิดขึ้นเมื่อคุณย่างเข้าสู่ ช่วงวัย 20 และอีกอย่างหนึ่งก็คือ คุณคงยืนใกล้กระจกมากไปน่ะ

        ควรปราบสิวในช่วงวัยนี้ เพราะสิวที่ผุดขึ้นมามักเกิดจากไลฟ์สไตล์ ความเครียด และมลภาวะซึ่งเคลนเซอร์ที่มีไกลโคลิกหรือกรดซาลิไซลิก 2 เปอร์เซ็นต์ น่าจะช่วยให้หน้าคุณเกลี้ยงได้

        อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ผิดวิธี เช่น หากใช้ผลิตภัณฑ์ต้านจุดด่างดำหลังล้างหน้าด้วยเคลนเซอร์แล้ว ก็อาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้

        หากคุณมีอาการตาบวมจากการนอนดึก กินอาหารรสเค็ม หรือจิบค็อกเทลมากไปหน่อย ลองนอนโดยยกศีรษะให้สูงขึ้น หรือควบคุมอาการตาบวมด้วยอายครีมที่มีส่วนผสมของกาเฟอีน

        อย่าเติมเกลือเพิ่มในอาหาร หรือกินอาหารปรุงสำเร็จนอกบ้าน เพราะมันยิ่งจะทำให้คุณตาบวมขึ้น แต่พริกไทยไม่เป็นไร


            30s

         โบกมือบ๊าย-บายสิวในช่วงวัย 30 เพราะระดับฮอร์โมนปรับสมดุลจนเข้าที่แล้ว ผิวจึงไม่มันหรือแห้งจนเกินไป

         อย่าเครียด แม้ว่าตารางชีวิตคุณจะยุ่ง เพราะมันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย แถมยังลดภูมิต้านทานผิวในการต่อสู้กับเชื้อโรคอีกด้วย

         สู้กับรอยแพนด้าใต้ตาที่มักโผล่มาในช่วง 30 ด้วยการกินยาแก้แพ้หรือการประคบเย็นจะช่วยได้ และในช่วงวัยนี้ยังเป็นเวลาที่คุณต้องเริ่มทาอายครีมให้เป็นกิจวัตรแล้ว

         อย่าขยี้ตา เพราะผิวจะถูกกระตุ้นให้เม็ดสีคล้ำมากขึ้น

         กินสารต้านอนุมูลอิสระมาก ๆ เช่น ผลไม้อย่างเบอร์รี่ วอลนัต ที่มีผลการวิจัยว่าช่วยให้ผิวเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ยากขึ้น

        อย่าเลือกกินอาหารผิวประเภท ทั้งไขมันแปรรูป และไขมันอิ่มตัวนั้นจะชะลอการฟื้นตัวของเซลล์ผิว และทำให้กระบวนการสร้างตัวของผิวช้าลงกว่าในช่วงอายุ 20 ด้วย


            40s

        ในช่วงอายุนี้ ใบหน้าคุณจะเรียวและยาวขึ้นโดยธรรมชาติ ซึ่งจะเปลี่ยนผู้หญิงที่ดูน่ารักให้กลายเป็นคนสวยเต็มวัย

         อย่าเพิ่งรีบจัดการกับรอยย่นเพียงเล็กน้อย เพียงแค่ใช้ไพรเมอร์ก็ซ่อนริ้วรอยได้แล้ว

         ควรไปพบแพทย์ผิวหนังที่จะช่วยระบุปัญหา สำคัญที่เกิดขึ้นกับผิวคุณ เช่น ผิวเสียจากแสงแดดความหมองคล้ำ หรือแห้งตึง เพื่อจะได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม

        อย่าใช้ผลิตภัณฑ์แบบไม่เลือก เพราะผู้หญิงวัยเลขสี่มักจะสับสนกับการเลือกใช้สกินแคร์ที่มีอยู่มากมาย ทำให้เลือกซื้อผิดหรือใช้มากเกินไป จนทำให้ผิวดูแตกลอกและแสบผิว

         ลองเปลี่ยนมาใช้สกินแคร์ที่มีสารสกัดจากถั่วเหลืองดูบ้าง เพราะมันจะช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิวคุณได้ดีขึ้น

         อย่ากินน้ำตาลมากเกินไปในช่วงไดเอท เพราะหากระดับน้ำตาลพุ่งสูง การผลิตคอลลาเจนจะชะงักลง และนั่นก็ทำให้ริ้วรอยตามมาเร็วขึ้น