Monday, April 30, 2012

ข้อควรปฏิบัติเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ผู้ชายควรทราบ

ความรัก

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          "ความรัก" เป็นรูปแบบความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน ซึ่งต้องอาศัยความเข้าใจ และการยอมรับของชายหญิงทั้งสองฝ่าย แต่หลาย ๆ ครั้ง พบว่าผู้ชายมักไม่เข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงเท่าที่ควร จึงส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่ให้จืดจางลงได้ วันนี้เราจึงมาเผยข้อควรปฏิบัติที่ผู้ชายควรรู้ให้ได้ทราบกัน จะได้ช่วยพัฒนาความรักของคุณให้ยืนยาวต่อไป

พยายามคุยกันในทุก ๆ เรื่อง

          คู่รักจำนวนมากที่มีปัญหาถกเถียงกันใหญ่โต ทั้งที่ความจริงแล้วมันเกิดจากเรื่องเล็ก ๆ เพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น แต่ประเด็นคือคนสองไม่พยายามสื่อสารกันให้เข้าใจ ซึ่งถ้าหากทั้งสองฝ่าย ยอมเปิดใจพูดความต้องการของตัวเองออกไปแล้ว ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น เพียงแต่ว่าต่างคนต่างต้องรับฟังในสิ่งที่อีกฝ่ายพูดให้จบก่อน อย่าด่วนตัดสินความคิดเร็วเกินไปนัก และเมื่อได้คุยกันเรียบร้อยแล้ว คราวนี้คุณและเธอจะเข้าใจกันมากขึ้น

ความรัก

อย่าเก็บมาเป็นปัญหาส่วนตัว

          เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณกับแฟนสาวเกิดทะเลาะกัน ซึ่งในบางครั้งอาจเป็นเรื่องของคนอื่นด้วยซ้ำไป พึงระลึกไว้เสมอว่า...อย่าเก็บเอาเรื่องเหล่านั้นมาถือเป็นเรื่องส่วนตัวของ คุณทั้งสองให้ขุ่นเคืองใจกัน ไม่งั้นปัญหาคงไม่มีวันจบสิ้น ที่สำคัญไม่ควรพูดอะไรที่ทำให้เธอเสียใจ (ซึ่งก็หวังว่าเธอจะไม่ทำเช่นกัน) เพราะถึงแม้เธออาจให้อภัยคุณได้ในท้ายที่สุด แต่เชื่อเถอะว่าเธอไม่มีวันลืมถ้อยคำร้าย ๆ ที่คุณพูดกับเธอแน่นอน

บอกเธอให้รู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไร

          ถ้าคุณมีความคิดเห็นไม่ตรงกับเธอ หรือมีความคับข้องใจในเรื่องใด ให้พูดกับเธอไปตามตรงว่าคุณไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เธอทำ เพราะหากยอมเธอบ่อย ๆ เข้า จนวันหนึ่งเกิดทนไม่ไหวขึ้นมา คราวนี้แหละ คุณจะระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างแรงแน่ ซึ่งถ้าเธอรักคุณจริงยังไงก็ต้องรับฟังคุณอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม จากนั้นค่อยมาหาจุดกึ่งกลางความพอใจของทั้งสองฝ่ายให้ลงตัว

ความรัก

เมื่อมีปัญหาควรแก้ไขทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน

          สิ่งสำคัญของความสัมพันธ์ที่คุณไม่ควรละเลยเป็นอย่างยิ่ง คือหากมีปัญหาหรือมีเรื่องผิดใจให้รีบแก้ไขทันที เต็มที่โกรธกันไม่ควรเกินหนึ่งวันนะ เพราะเมื่อไหร่ที่ปล่อยให้ปัญหาคั่งค้าง สะสมทิ้งเอาไว้นาน ๆ สุดท้ายแล้วอาจจะสายเกินเยียวยาได้

รู้จักประนีประนอม

          คนสองคนที่มาจากต่างที่มา เป็นเรื่องธรรมดาที่อาจมีความเห็นไม่ตรงกันบ้าง ซึ่งปัญหาจะไม่มีวันลุกลามใหญ่โต หากทั้งสองฝ่ายรู้จักประนีประนอม ไม่ถือเอาความรู้สึกของตัวเองเป็นใหญ่ แต่เมื่อไหร่ที่ฝ่ายหนึ่งยอมแล้วยอมเล่าอยู่บ่อยครั้ง จนถูกอีกฝ่ายชิงเอาเปรียบอยู่ร่ำไป นี่คงเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้คงไม่เวิร์คแล้วล่ะ

ความรัก

มองหาคนที่ชอบอะไรคล้าย ๆ กับคุณ

          ความจริงแล้วเราไม่ได้หมายถึงว่า คุณต้องหาสาวที่ชอบอะไรเหมือนกับคุณทุกประการมาเป็นแฟนนะ เอาแค่ส่วนใหญ่ก็ได้ เพราะคนที่มีความสนใจอะไรคล้าย ๆ กัน ย่อมคุยถูกคอ และมีความเข้าใจกันมากกว่าคนที่ต่างกันแบบสุดขั้ว ถึงแม้ว่าอาจมีผู้หญิงบางคนที่ยอมมานั่งดูบอล เล่นวีดิโอเกมไปด้วยกันกับคุณ แต่คุณควรถามอย่างจริงจังว่า เธอมีความสุขกับสิ่งที่ทำหรือเปล่า ซึ่งถ้าฝืนใจทำ วันหนึ่งเธอก็คงเบื่อในที่สุด หรือหากลองมองกลับกัน คุณอยากไปนั่งติดแหงกดูซีรี่ย์เกาหลีกับเธอบ้างไหม ? คำตอบคงไม่...จริงมั้ยครับ

มีความเท่าเทียมกันเสมอ

          ประเด็นเกี่ยวกับเรื่องที่ว่า "ฉันทำได้ แต่เธอทำไม่ได้" สามารถทำให้คู่รักหลายคู่ต้องเลิกรากันมานักต่อนักแล้ว เพราะคงไม่มีใครอยากถูกจำกัดอิสระของตนเองอย่างแน่นอน เช่น คุณสามารถตระเวณออกไปย่ำราตรีได้ทุกอาทิตย์ แต่กลับไม่ให้แฟนสาวออกไปเที่ยวกับเพื่อนเลย แบบนี้คงไม่แฟร์สักเท่าไหร่ อย่างไรแล้วไม่ว่าชายหรือหญิง...ทุกคนเกิดมาย่อมมีสิทธิเท่าเทียมกันทั้งสอง ฝ่ายไม่ใช่หรือ ?

ความรัก

ลองคิดกลับกันในมุมมองของเธอดูบ้าง

          ทุก ๆ ครั้งที่เกิดความไม่เข้าใจกันระหว่างคุณและคนรัก เราอยากให้คุณลองคิดกลับกันว่าถ้าคุณเป็นเธอ คุณจะตัดสินใจแบบเดียวกันกับเธอหรือเปล่า อย่ามองอะไรเพียงด้านเดียว เหรียญยังมีสองด้านเลยจริงไหม ซึ่งถ้าคุณหัดมองอะไรในมุมของเธอบ้าง บางทีคุณอาจเข้าใจเธอมากกว่านี้ก็ได้

ไม่ควรมีทัศนคติในเชิงลบกับผู้หญิง

          มีอยู่หลายครั้งหลายหนที่เราสังเกตเห็นในวงสนทนาของหนุ่ม ๆ ชอบคิดกันว่า ผู้หญิงมีข้อเสียตรงนั้นตรงนี้ หรือไม่ก็คิดว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ก็งี่เง่าแบบนี้แหละ ซึ่งการเป็นสุภาพบุรุษที่แท้จริง ไม่ควรมีทัศนคติกับผู้หญิงเช่นนี้ เพราะอย่าลืมว่าคุณเองก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบไปกว่าเธอหรอก

ความรัก

อย่าคาดหวังให้เธอเปลี่ยนตัวเอง

          อย่าพยายามบังคับให้เธอเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อคุณเลยนะ ลองถามตัวเองว่า คุณชอบเธอเพราะอะไร เพราะตัวตนที่เธอเป็นตั้งแต่แรกพบหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าคบกันแล้วก็หวังให้เธอเปลี่ยนตัวเองเพื่อคุณได้ทุกอย่าง แต่ถ้าเธออยากทำก็ปล่อยให้ทำเพราะความต้องการของเธอเอง หรืออย่างน้อยก็หันมาเจอกันคนละครึ่งทาง เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย

          เมื่อได้อ่านข้อมูลที่เรานำมาฝากกันไปแล้ว หวังว่าคงให้อะไรดี ๆ มีประโยชน์กับเพื่อน ๆ ได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งเมื่อไหร่ที่มีเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวอีก เราจะรีบนำมาบอกให้ได้ทราบกันนะครับ ;)

ความซื่อสัตย์...สิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตคู่



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ปัจจุบัน นี้ปัญหาการหย่าร้างพบได้บ่อยครั้ง จนแทบจะกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาในสังคมเลยทีเดียว ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้ชีวิตคู่เดินทางมาถึงจุดจบหรอก ใคร ๆ ต่างก็อยากให้ชีวิตแต่งงานยั่งยืนยาวนานด้วยกันทั้งนั้น จนทำให้หลายคู่พยายามประคับประคองชีวิตคู่ให้ยืนยาวที่สุด ด้วยการพยายามทุ่มเททำสิ่งต่าง ๆ เช่น ดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่ตลอดเวลา พูดจาเอาใจเขา หรือหารายได้มาจุนเจือครอบครัว ... แต่คุณลืมไปหรือเปล่าว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดเพื่อให้ชีวิตแต่งงานกลับไม่ใช่สิ่งเหล่านั้นเลย มันคือ "ความซื่อสัตย์" ต่างหาก

          หากคุณหวังจะได้อยู่กับคนที่คุณรักจนแก่เฒ่า ก็ควรจำไว้ว่าความ ซื่อสัตย์เป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดในชีวิตคู่ของคุณ เพื่อรักษาความสัมพันธ์ของคุณเอาไว้ให้มั่นคง เพราะหากคุณไม่ซื่อสัตย์ต่อกันแล้ว ก็คงยากที่จะเชื่อใจกันได้ และความไม่เชื่อใจนั้นเอง ที่จะทำให้คุณทั้งคู่ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงกันในทุก ๆ เรื่อง จนทำให้ไม่มีความสุข และเป็นสาเหตุให้ต้องแสวงหาความรู้สึกเหล่านั้นจากคนอื่น

          ดังนั้น เพื่อให้ชีวิตคู่ของคุณมั่นคง คุณควรแสดงความจริงใจ ความซื่อสัตย์ต่อกันและกันในทุก ๆ เรื่อง  หากคุณเคยนอกใจคนรักของคุณ ควรบอกเขาตามตรง เพราะความลับนั้นไม่มีในโลก ไม่ว่าอย่างไรสักวันหนึ่งเขาหรือเธอก็ต้องรู้ความจริงอยู่ดี และการรู้ความจริงจากปากของคุณเอง ย่อมดีกว่าการที่คนอื่นมาเล่าให้ฟังอย่างแน่นอน ที่สำคัญการรับรู้จากคนอื่น มักทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็นคนโง่ที่ถูกหลอกมาตลอด จนยากที่จะกลับมาเชื่อใจคุณได้อีก

          นอกจากนี้ หาก คุณเกิดรู้สึกถูกใจคนอื่นจนหยุดคิดถึงเขาไม่ได้ ก็ควรสารภาพกับสามีของคุณตามตรง เพราะแม้ว่าจะยังไม่ใช่การนอกใจโดยตรง แต่การที่คุณมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับคนอื่นที่ไม่ใช่เขา ก็สามารถนำมาสู่ปัญหาในชีวิตคู่ของคุณได้ ดังนั้น คุณควรพูดคุยปรึกษากัน อาจพยายามเจอเขาคนนั้นให้น้อยลง หรือลองไปเที่ยวกันสองต่อสองเพื่อเติมความหวานให้ชีวิตคู่ของคุณอีกครั้ง เผื่ออะไร ๆ จะดีขึ้นได้ ก่อนที่ความรู้สึกถูกใจที่คุณมีให้คนอื่น จะกลายเป็นความรักไปโดยไม่รู้ตัว

          และ สิ่งสำคัญที่สำคัญ คือ คุณควรเปิดอกพดคุยกันในทุก ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทะเลาะกันเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม จะได้ไม่มีปัญหาคาใจเก็บไว้ให้ต้องมาทะเลาะกันทีหลัง ไม่อย่างนั้น...ปัญหานั้น ๆ ก็จะวนเวียนอยู่ในชีวิคู่ของคุณไม่จบสิ้น และคุณคงไม่อยากอยู่กับชีวิตแต่งงานที่ไม่มีความสุขอย่างแน่นอน

Saturday, April 28, 2012

7 วิธี รักษาสมดุลในหน้าที่การงานและชีวิตอย่างไรให้ราบรื่น

7 วิธี รักษาสมดุลในหน้าที่การงานและชีวิตอย่างไรให้ราบรื่น

          ทุกวันนี้หลาย ๆ คนอาจต้องเจอความเครียด ความกดดันจากที่ทำงาน ไหนจะปัญหาครอบครัวที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแล เพราะมัวแต่ทำงานหาเงินมาเลี้ยงดู จนลืมไปว่าสิ่งที่ภรรยาและลูกที่บ้านต้องการคือหัวหน้าครอบครัว ผู้เป็นทั้งสามีและพ่อ แต่กลับละเลยความสำคัญของพวกเขาไป ฟังดูแล้วเหมือนต้องแบกความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่เอาไว้ ใจเย็น ๆ แล้วลองอ่านข้อมูลที่เรานำมาฝากดูก่อน ว่าจะสามารถรักษาความสมดุลของทั้งสองสิ่งให้ดีได้อย่างไร

 1. ให้ความสนใจไปกับจุดมุ่งหมายและความหลงใหลในสิ่งที่ทำ
          ไม่ว่างานที่ได้รับมอบหมายหรือหน้าที่ ๆ ต้องรับผิดชอบในชีวิตจะมีท่วมท้น จนรู้สึกว่าไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหนก่อน ขอให้ตั้งสติและ "ให้ความสนใจไปกับจุดมุ่งหมายและความหลงใหล" ไปในสิ่งเหล่านั้นอย่างเต็มที่ จัดระบบความคิดและเรียงลำดับสำคัญให้ดี ๆ เพราะสองสิ่่งที่กล่าวนั้น จะเป็นแรงผลักดันอย่างดีที่จะช่วยให้คุณสามารถทำงานได้มากและยาวนานขึ้น แล้วยังมีความสุขกับการดูแลชีวิตส่วนตัวไปพร้อม ๆ กัน

 2. วางแผนชีวิตในอนาคต
          มีคนมากมายหลายคนที่วางแผนการใช้ชีวิตแค่วันต่อวัน แต่ไม่เคยคิดว่าต้องทำอะไรในวันข้างหน้า ซึ่งจะทำให้การแบ่งเวลาชีวิตการทำงานและส่วนตัวไม่พอดีกัน จนอาจทำให้ละเลยบางสิ่งบางอย่างหรือทั้งหมดเลยก็เป็นได้ ทีนี้อยากให้คุณลองเขียนตารางเวลาไว้คร่าว ๆ ว่าในแต่ละวันต้องทำอะไรบ้าง สิ่งไหนควรทำก่อน - หลัง โดยเริ่มจากระยะเวลาสั้น ๆ สักอาทิตย์เดียวก่อน จากนั้นก็ปรับเป็นเดือนหรือเป็นปีก็ได้ เพราะยิ่งวางแผนไว้ไกลเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้มองเห็นภาพรวมของชีวิตคุณชัดเจนขึ้น ซึ่งทีนี้คุณก็รู้แล้วว่าช่วงไหนที่ต้องทำงานหนัก เวลาไหนที่ควรจะพักผ่อน หรือให้เวลากับครอบครัวและเพื่อนบ้าง

 3. สังเกตผังการทำงานของบริษัท
          บริษัทส่วนใหญ่มักจะมีช่วง "ฤดูกาลงานเข้า" หรือ ช่วงเวลาที่งานยุ่งมากเป็นพิเศษ เช่นต้นปีหรือปลายปี ที่พนักงานทุกคนต่างก็ต้องเคร่งเครียดที่จะทำงานให้เสร็จเรียบร้อยตามกำหนด แต่ว่าก็ว่าเถอะนะ มันก็ต้องมีช่วงที่ไม่ยุ่งบ้างล่ะ ซึ่งคุณอาจจะอาศัยจังหวะนั้นเดินทางไปพักผ่อน หากมีเวลามากพอ หรือไม่ก็ออกจากที่ทำงานเร็วนิดนึงไปทำกิจกรรมอะไรก็ตามที่คุณชอบ เช่น เล่นกีฬา เดินเล่นตามสวนสาธารณะ แม้กระทั่งช้อปปิ้ง เพื่อผ่อนคลายก่อนช่วงเวลางานอันแสนยุ่งเหยิงจะมาถึง

 4. อย่าลืมให้เวลา "ครอบครัว"

          ในเมื่อมีช่วงฤดูกาลงานเข้าแล้ว โปรดอย่าลืมและพึงระลึกไว้เสมอว่า ยังมี "ครอบครัว" ที่รักคุณรออยู่และคอยเป็นกำลังใจให้เสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต หาโอกาสพาครอบครัวไปเที่ยว เดินทางไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ พาลูกไปส่ง - รับด้วยตัวเองที่โรงเรียน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยเติมเต็มชีวิตคุณให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น เพราะชีวิตไม่ได้ขึ้นอยู่กับงานเพียงอย่างเดียว แต่ครอบครัวคือสิ่งที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จต่าง ๆ ของคุณด้วย

 5. ตั้งใจทำงานอย่างหนัก
          เมื่ออยู่ในหน้าที่ ขอให้ตั้งใจทำงานอย่างหนักและเต็มที่กับสิ่งที่ได้รับมอบหมาย เพื่อแสดงให้บริษัทเห็นว่าคุณมีความตั้งใจจริงและยินดีทำทุกอย่างให้งานออก มาดีที่สุด แล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่อยากจะพักหรือผ่อนคลาย เชื่อเถอะว่าพวกเขายินดีที่จะให้สิ่งที่คุณต้องการ เมื่อได้เห็นความทุ่มเทที่มีให้ตลอดมา ดังนั้นการตอบแทนเล็ก ๆ น้อย ๆ คืนให้กับพนักงานดีเด่นอย่างคุณ คงไม่ใช่เรื่องยากเกินกว่าจะอนุมัติให้อย่างแน่นอน

 6. เวลางานก็ให้ความสนใจในเรื่องงานจริง ๆ
          เมื่ออยู่ในเวลางาน ก็ควรรับผิดชอบในหน้าที่อย่างจริงจัง พักเรื่องที่เข้ามารบกวนจิตใจเอาไว้ก่อน เพราะถ้าเอาแต่คิดฟุ้งซ่าน มันก็จะส่งผลกระทบต่องานที่ทำอยู่ ทันทีที่คุณมีสมาธิและจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำ รับรองคุณจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจและคำชื่นชมจากเจ้านาย เผลอ ๆ อาจได้รับการพิจารณาให้เลื่อนตำแหน่งอีกซะด้วย

 7. เมื่ออยู่บ้าน...ขอให้ลืมเรื่องงานทิ้งไปให้หมด
          จงใช้เวลาอันแสนมีค่ากับครอบครัวให้คุ้มค่า อย่าเอางานกลับมาทำที่บ้านโดยใช้ห้องรับแขกเป็นออฟฟิศ หรือเอาแต่คิดถึงโปรเจกต์งานที่ทำขณะอยู่บนโต๊ะอาหาร จนไม่ได้ใส่ใจคนรอบตัว ลองคิดดูสิว่าพวกเขาจะรู้สึกยังไง ถ้าครอบครัวคุณพากันออกไปนั่งปิคนิค แต่คุณเอาโน๊ตบุ๊คไปนั่งทำงาน แถมคุยโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา มันคงไม่ใช่เวลาของครอบครัวแน่ ๆ ซึ่งถ้าหากวันหนึ่งคุณกลับมาที่บ้านแล้วพบว่าไม่มีใครอยู่ เหลือไว้เพียงกองเอกสารงานที่ขนมาทำที่บ้าน คุณจะรู้สึกว่าอะไรมันขาดหายไปบ้างไหม ฉะนั้นแบ่งเวลาให้เป็น งานก็ส่วนงาน ครอบครัวก็ส่วนครอบครัว อย่าให้สิ่งไหนมันเหลื่อมล้ำมากจนเกินไป

          อาจจะเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป เพื่อรักษาความสมดุลให้กับเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวดำเนินไปด้วยกันโดย ปราศจากปัญหา เพราะทั้งสองสิ่งคือ "ส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์" ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้นั่นเอง

Monday, April 23, 2012

วิธีแก้รังแค

รังแค

วิธีแก้รังแค (Lisa)

          คงไม่มีใครอยากเอ็นจอยกับหิมะหน้าหนาวบนศีรษะแน่ รังแคเกิดจากเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว แห้งหลุดลอกตกสะเก็ดออกจากหนังศีรษะ

          ความจริงนี่เป็นกระบวนการผลัดเซลล์บนหนังศีรษะโดยธรรมชาติอยู่แล้ว แต่หากเกิดขึ้นในปริมาณมากก็จะเกิดเป็นปัญหารังแคที่มีส่วนให้หนังศีรษะ ระคายเคือง ที่เชื้อรามีส่วนทำให้เกิดด้วย อากาศที่หนาวและแห้ง มักทำให้เกิดรังแคขึ้นได้มากกว่าปกติ นอกจากนี้อาจเป็นส่วนหนึ่งของอาการแพ้อาหารบางชนิด รวมทั้งการที่ร่างกายขาดกรดไขมันโอเมก้า 3 และวิตามินบีคอมเพล็กซ์ที่ช่วยลดการผลัดเซลล์ผิว ส่วนผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผม ทั้งพวกเจลและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสีผมก็ทำให้คุณระคายเคืองหนังศีรษะจนเซลล์ ผิวหลุดลอกได้

          ทางแก้

          ภายนอก ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมที่รักษารังแคโดยเฉพาะ เช่น แชมพูขจัดรังแค

          ภายใน เพื่อป้องกันการผลัดเซลล์ผิวที่มากเกินจำเป็น ต้องเริ่มจากมีสุขภาพที่ดี ทั้งในเรื่องการกิน ให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างกรดไขมันโอเมก้า 3 และวิตามินบีคอมเพล็กซ์ การดื่มน้ำให้ร่างกายได้รับของเหลวในปริมาณเหมาะสม ป้องกันผิวแห้ง การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ กิจกรรมเพื่อความผ่อนคลายอย่างการทำสมาธิและโยคะ ก็มีส่วนช่วยได้เหมือนกัน

          Natural Treatment

          - ต้มใบชาแห้งในน้ำ ทิ้งไว้ให้เย็น และบีบน้ำมะนาวลงไปครึ่งลูก ทาลงบนหนังศีรษะทิ้งไว้ประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนสระผมตามปกติ มันช่วยขจัดรังแคและทำให้ผมดูเงางามขึ้นได้

          - ผสมไข่ขาวหนึ่งฟองกับน้ำมะนาว 1 ผล ทาลงบนหนังศีรษะไว้หนึ่งชั่วโมง ก่อนสระผมและล้างน้ำสุดท้ายด้วยน้ำที่ผสมน้ำส้มสายชูเจือจางลงไปด้วย เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลดี

          - ผ่าครึ่งผลมะนาว นำมาทาถูบนหนังศีรษะก่อนอาบน้ำ ลองทำบ้างเป็นบางครั้ง

          - ก่อนสระผม นวดหนังศีรษะด้วยเกลือสักพักแล้วล้างออก ลองทำดูบ่อย ๆ แล้วมันจะช่วยขจัดรังแคได้ผลชะงัดเลยล่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

เทคนิคการแต่งตัวเสริมความหล่อแบบง่าย ๆ

เทคนิคการแต่งตัวเสริมความหล่อแบบง่าย ๆ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          หนุ่ม ๆ หลายคนที่ชอบแต่งตัว ซื้อเสื้อผ้าหลากหลายแบบมาใส่ จริง ๆ แล้วรู้หรือไม่ว่าตัวเองนั้นเหมาะกับเสื้อผ้าสไตล์ไหน หรือเลือกมาเพราะความชอบเพียงอย่างเดียว ทั้งที่มันไม่เข้ากับคุณเอาซะเลย จนสุดท้ายก็ต้องโยนทิ้งไปในตู้เสื้อผ้าโดยไม่ได้ใส่แม้แต่ครั้งเดียวด้วยซ้ำ

          ถ้าอย่างนั้น...วันนี้กระปุกดอทคอมจะมาเป็นสไตลิสต์ส่วนตัว ช่วยแนะนำเคล็ดลับดี ๆ ในการแต่งตัวมาบอกให้ทราบกัน

เน้นความเรียบง่ายเข้าไว้

          ถ้าคุณไม่อยากให้สาว ๆ เขามองว่าคุณเป็นผู้ชายที่ดู "เยอะ" ในเรื่องของแฟชั่นแล้วล่ะก็ ไม่จำเป็นต้องประโคมใส่เครื่องประดับให้มากเกินไปนัก พวกสร้อยคอ สร้อยข้อมือ - ข้อเท้า รวมทั้งแหวน ทั้งหมดก็ไม่ควรจะใส่มากเกินกว่า 3 ชิ้น ส่วนเสื้อผ้าก็ไม่ต้องจัดหนักซะเว่อร์ จนคนเดินผ่านไปผ่านมาที่เห็นต้องแอบนึกในใจว่า "นี่จะไปเดินบนแคทวอร์คที่ไหนเนี้ย" เลือกใส่อะไรง่าย ๆ เข้าไว้ดีที่สุด
         
เปลี่ยนมุมมองคำว่า "ลำลอง" เสียใหม่

          คุณอาจจะคิดว่าเสื้อผ้าแบบลำลองดูเป็นอะไรที่ซ้ำซาก จำเจ ความจริงแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอก ทิ้งความเชื่อเดิม ๆ ทิ้งไป แล้วค้นหาแรงบันดาลใจในการแต่งตัวธรรมดา ๆ แต่ดูเท่ มีเสน่ห์จากศิลปิน ดาราหรือนายแบบที่ชื่นชอบ แล้วนำมาปรับให้เข้ากับแนวของตัวเอง

สำรวจตัวเองดูว่าชุดที่ใส่เข้ากันหรือเปล่า

              ใช่ว่าคุณมีเสื้อตัวเก่งใส่ออกไปข้างนอกแล้วจะทำให้คุณดูหล่อขึ้นได้ แต่กางเกง เข็มขัดและรองเท้า คือองค์ประกอบสำคัญไม่แพ้กันที่คุณควรใส่ใจ ลองใส่เสื้อกับกางเกงหลาย ๆ แบบดูก่อนว่า ชุดไหนใส่แล้วโอเคสุด จากนั้นก็เลือกเข็มขัดและรองเท้าที่แมทช์กันมาใส่ เพียงแค่นี้คุณก็ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าได้แล้ว

อย่าออกไปช้อปปิ้งคนเดียว

              จริงอยู่ว่าออกไปเดินช้อปปิ้งคนเดียวนั้นเป็นอะไรทีง่ายและสะดวก แต่ว่าบางทีคุณก็ต้องการเพื่อนที่มีความรู้ด้านแฟชั่นมาช่วยให้คำแนะนำและ ให้ความเห็นด้วยนะ เพราะลำพังจะเชื่อแต่ปากคนขายอย่างเดียวไม่ได้หรอก (ก็เล่นชมทุกตัวที่เลือกน่ะสิ) ฉะนั้นอย่าลืมหนีบเพื่อนไปด้วยล่ะ

เทคนิคการแต่งตัวเสริมความหล่อแบบง่าย ๆ

เลือกสวมเสื้อผ้าขนาดพอดีตัว

          จะเห็นได้ว่าผู้ชายส่วนใหญ่มักชอบใส่เสื้อผ้าที่ตัวใหญ่ ๆ หรือหลวม ๆ เพื่อความสบาย แต่รู้หรือไม่ว่าแนวการแต่งตัวแบบนั้นมันเชยมาก ๆ แถมยังดูแปลก ๆ อีกต่างหาก ถ้าอยากดูดีแล้วล่ะก็ ควรหาเสื้อผ้าที่มีขนาดพอดีกับรูปร่างตัวเองมาใส่จะโอเคกว่านะ

ใส่ใจในรายละเอียด

          รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของการแต่งตัว คืออีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรละเลย เช่น เนคไทของคุณเบี้ยวหรือเปล่า? ผ้าพันคอเลอะคราบอะไรมาไหม? รองเท้าขัดเงาดีหรือยัง? ถึงแม้ว่าจะดูเป็นอะไรที่จุกจิกไปสักหน่อยแต่ก็ไม่ควรมองข้ามไป

ดูแลรักษารองเท้าให้ดูใหม่อยู่เสมอ

          รองเท้า อาจเป็นเครื่องประดับที่หนุ่ม ๆ ไม่ได้สนใจมากเมื่อเทียบกับเสื้อ กางเกงหรือนาฬิกา แต่มันคือสิ่งที่คุณต้องสวมใส่เป็นประจำอยู่ทุกวัน ฉะนั้นมันย่อมเก่าและทรุดโทรมได้เร็ว ยิ่งถ้าซื้อมาในราคาแพงด้วยแล้วล่ะก็ คุณคงไม่อยากปล่อยให้มันเต็มไปด้วยฝุ่นหรือโคลนแน่ ๆ ดังนั้นหมั่นขัดถูดูแลรองเท้าให้ดูใหม่อยู่เสมอนะ

หาซื้อเสื้อยืดที่มีลายเท่ ๆ ไว้ใส่
             
          หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ชอบใส่เสื้อยืด อย่าลืมหาเสื้อที่มีลายเท่ ๆ แปลก ๆ หรือที่มีข้อความโดน ๆ มาใส่กัน แม้จะดูเรียบง่าย แต่ก็มีสไตล์อยู่ทีเดียว ออ...ยกเว้นลายพวกโลโก้สินค้าอันใหญ่ ๆ นะ เพราะมันทำให้คุณดูเหมือนป้ายโฆษณาเดินได้น่ะสิ

อย่าไปยึดติดกับเทรนด์แฟชั่น

          ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่า ถ้าคุณชอบซื้อเสื้อผ้าตามกระแสแฟชั่นแล้วล่ะก็ วันหนึ่งจะเปิดตู้เสื้อผ้ามาเจอกองเสื้อผ้าที่ซื้อไว้แล้วไม่ได้ใส่วางเต็ม ไปหมด เพราะแฟชั่นบางอย่างผ่านมาแล้วก็ผ่านไป (และอาจไม่เวียนกลับมาอีกต่างหาก) เลือกซื้อแบบที่คุณชอบและเป็นสไตล์ของตัวเองดีทีสุด ต่อให้วันเวลาผ่านไปขนาดไหน คุณก็ยังหยิบชุดโปรดมาใส่ได้เสมอ

แบรนด์เนมไม่ใช่คำตอบแรกเสมอไป

          ถ้าคุณมีความคิดที่จะซื้อข้าวของเครื่องใช้ราคาแพง เพียงเพราะมีโลโก้แบรนด์ดังติดอยู่ แต่ไม่ได้นึกถึงคุณภาพ รูปแบบหรือโอกาสในการใช้งานเลย มันคงเป็นอะไรที่สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ สู้เปลี่ยนมาใช้สินค้าที่คุณภาพใกล้เคียง ราคาถูกกว่าน่าจะดีกว่า โดยไม่ต้องสนใจว่าจะเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงหรือไม่ เพราะมันก็เป็นเพียงแค่ป้ายเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าก็เท่านั้นเอง


เทคนิคการแต่งตัวเสริมความหล่อแบบง่าย ๆ

แต่งตัวให้เหมาะกับกาลเทศะ

          แม้ว่าจะให้แต่งตัวแบบที่เน้นความเรียบง่ายเอาไว้ก่อนเป็นอันดับแรก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าลืมคำนึงถึงเรื่องกาลเทศะด้วย เช่น ต้องเข้าประชุมกับลูกค้าที่ออฟฟิศ แต่สวมกางเกงยีนส์ลากรองเท้าแตะไป อันนี้ก็ไม่ไหวนะ ชิลเกิ๊นนน เรื่องความเหมาะสมจึงเป็นอีกเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ

ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ให้ดูดีขึ้น

          นาน ๆ ครั้งลงทุนซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้กับตัวเองบ้าง เพื่อเปลี่ยนลุคของคุณให้ดูแตกต่างไปจากเดิม ซึ่งหลาย ๆ คนอาจยึดติดกับสิ่งเดิม ๆ ว่ามันดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไร แต่การปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์อาจทำให้คุณค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ที่เหมาะกับคุณมากกว่าเดิมก็เป็นได้

ถามความเห็นจากคนอื่นดู

          ลองถามเพื่อน คนในครอบครัวหรือใครก็ได้ที่คุณแน่ใจว่า เขาจะให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับเรื่องรสนิยมการเลือกเสื้อผ้าของ คุณ ว่าแบบไหนเหมาะ แบบไหนไม่ควรใส่ ทั้งนี้ก็เพื่อตัวคุณเองจะได้ทราบถึงมุมมองของคนอื่นที่มีต่อชุดที่คุณใส่ หากไม่เข้ากันก็จะได้แก้ไขเปลี่ยนแปลง ดีกว่าเดินออกไปให้คนอื่นมองด้วยสายตาประหลาดนะ

โกนหนวดเคราให้เรียบร้อย

          อย่าปล่อยให้หนวดเครารกรุงรังเต็มหน้าล่ะ เพราะคงไม่มีสาว ๆ คนไหนอยากให้คุณจูบเธอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยขนอย่างนั้นหรอก โกนหนวดให้เกลี้ยงเกลา เพื่อที่คนอื่นจะได้เห็นใบหน้าชัด ๆ ของคุณอย่างเต็มที่

          เมื่อเพื่อน ๆ ทราบข้อมูลที่เรานำมาฝากกันไปแล้ว คงทำกันได้ไม่ยากนะครับ ที่เหลือคุณก็ต้องนำไปใช้ดูนะ รับประกันเลยว่าคราวนี้สาว ๆ จะต้องเหลียวหลังมามองคุณใหม่เลยทีเดียว ถึงเป็นผู้ชายก็ต้องอย่าหยุดดูแลตัวเองนะคร้าบบบ

Saturday, April 21, 2012

ผู้หญิงแบบไหนบ้าง ที่หนุ่ม ๆ ควรถอยห่าง

ผู้หญิงแบบไหนบ้าง ที่หนุ่ม ๆ ควรถอยห่าง

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          เชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคน ต่างก็มีผู้หญิงในสเป็คอยู่ในใจกันอยู่แล้ว ว่าตัวเองชอบคนแบบไหน และมีนิสัยยังไงถึงจะคบกับคุณได้ แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีสาวบางประเภทที่คุณไม่ควรเผลอใจไปชอบหรือเข้าไปทำความ รู้จักเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งวันนี้กระปุกดอทคอมจะมาเฉลยให้คุณได้รู้ว่าผู้หญิงแบบไหนที่ผู้ชายต้อง ถอยห่างมาบอกกันให้ทราบ

          - สาวสุดมั่นที่คิดว่าตัวเองเริ่ดมาก

          คนที่มีความมั่นใจมันก็ดีอยู่หรอก แต่บางคนมีมากซะจนล้น ทำเอาไม่มีใครอยากอยู่ใกล้เลยทีเดียว โดยเฉพาะหนุ่ม ๆ ที่ต้องการดูแล ปกป้องและเป็นผู้นำให้กับสาวสุดที่รัก ซึ่งถ้าเธอคนนั้นกลับทำตัวมาดมั่นเกินหน้าเกินตาคุณมาก ๆ แถมยังคิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น เราว่าคนแบบนี้คงไม่เหมาะที่คุณจะหันมาควงหรอกนะ

           - สาวที่พยายามเปลี่ยนตัวเองเพื่อคุณ

          สาว ๆ บางคน อยากจะให้หนุ่ม ๆ ประทับใจ จึงพยายามทำตัวให้เป็นอย่างที่คุณเคยใฝ่ฝัน เช่น เปลี่ยนลุคของตัวเองจากสาวเรียบร้อย ให้กลายมาเป็นสาวสุดเซ็กซี่ ทั้ง ๆ ที่มันไม่ใช่ตัวของเธอเลยสักนิด จริงอยู่ที่ตอนแรกคุณอาจจะรู้สึกดีที่เธอยอมเปลี่ยนตัวเองให้ แต่เมื่อถามความรู้สึกตัวเองลึก ๆ คุณจะรู้ว่าคุณชอบเธออย่างที่เธอเป็นในตอนแรกมากกว่า ซึ่งการยอมเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนอื่นมากเกินไป ก็ทำให้คุณมองได้ว่าเธอไม่มีจุดยืนของตนเอง และมักโอนอ่อนไปตามที่คนอื่นอยากให้เป็น


ผู้หญิงแบบไหนบ้าง ที่หนุ่ม ๆ ควรถอยห่าง

          - สาวมือขยันผู้ชื่นชอบการส่งข้อความ

          สมัยนี้เทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเรามากขึ้นทุกที ทำให้การติดต่อสื่อสารเป็นไปอย่างง่ายดายและรวดเร็ว ซึ่งการส่งข้อความ (SMS) ทางมือถือก็ได้รับความนิยมมากขึ้นไปด้วย แต่บางทีข้อความเหล่านี้ก็รบกวนชีวิตคุณอยู่เหมือนกัน ยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงที่ชอบส่งข้อความทักทายแบบสั้น ๆ มากกว่าการโทรคุยด้วยแล้ว เธอจะชอบส่งมาหาคุณว่า "ทำอะไรอยู่" "คิดถึงไหม" "มาหาหน่อยสิ" "เมื่อไหร่จะถึง" "เบื่อจัง" เป็นอยู่อย่างนี้ตลอดทั้งวัน อันนี้ก็ไม่ไหวนะ ถ้าโทรมาคุยเลยจะง่ายกว่าอีก ดีกว่าต้องมากดโทรศัพท์โต้ตอบกันให้เมื่อย

         - สาวผู้ชอบพิมพ์ภาษาเพี้ยน ๆ

          ปัจจุบันคุณจะเห็นภาษาวิบัติที่คนบางกลุ่มนิยมใช้กันได้ทั่วไปทางอิน เทอร์เน็ต หรือการส่งข้อความหากัน เช่น "เหรอ เป็น หรา" "ก็ได้ เป็น ก้อด้าย" เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคุณผู้หญิงซะมากกว่า ที่ชอบพิมพ์ภาษาผิด ๆ เพี้ยน ๆ นี้ (แต่ไม่ได้บอกว่าทุกคนนะ) แต่ยอมรับว่ามันค่อนข้างน่ารำคาญและหงุดหงิดอยู่พอสมควรเวลาอ่าน

          - สาวที่ชอบเก็บรูปแฟนเก่าไว้

          "อดีต" จะเป็นยังไงไม่มีใครสนใจหรอก เพียงแต่อย่าปล่อยให้มันมีอิทธิพลหรือส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ในปัจจุบัน ก็พอ แต่ถ้าเธอยังเก็บรูปถ่ายของอดีตคนรักไว้ในกระเป๋าสตางค์หรือตั้งโชว์อยู่ใน ห้อง อันนี้มันก็ดูไม่แฟร์สำหรับเราเท่าไหร่เลย และถือว่าไม่ให้เกียรติด้วย หากเจอสาวที่ยังสลัดรักเก่าไม่พ้น ก็ควรถอยห่างออกมาก่อนดีกว่า

ผู้หญิงแบบไหนบ้าง ที่หนุ่ม ๆ ควรถอยห่าง

         - สาวผู้อยากผูกมิตรกับเพื่อนคุณทุกคนในเฟซบุ๊ก

          ถ้าผู้หญิงที่คุณกำลังศึกษาดูใจกันอยู่ เริ่มรุกหนักโดยการเข้าไปขอแอดเป็นเพื่อน กับเพื่อนของคุณในเฟซบุ๊กทั้งหมดทุกคน โดยไม่ถามคุณก่อนสักนิด เราว่าเธอค่อนข้างเป็นคนน่ากลัวแล้วล่ะ ที่พยายามเข้ามาสืบเสาะความเป็นไปทุกอย่างของคุณจากเฟซบุ๊กเพื่อน คนเรามันต้องการพื้นที่ชีวิตส่วนตัวกันบ้าง แต่ถ้าเข้ามายุ่มย่ามมากเกินไปแบบนี้ก็ขอบายซะเถอะ เยอะเกิ๊น!

         - สาวที่คบแต่เพื่อนผู้ชาย

          การที่ผู้หญิงจะมีเพื่อนผู้ชายมากกว่าเพื่อนผู้หญิงมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก อะไรหรอก แต่ถ้าไม่มีเพื่อนสาวเลยสักคนนี่สิ เริ่มแปลกแล้วล่ะ เราก็เข้าใจอยู่นะว่าการคบเพื่อนผู้ชาย เป็นอะไรที่ง่าย ๆ สบาย ๆ ไม่จุกจิก เรื่องมากหรือเอาแต่นั่งเม้าท์ตามประสากลุ่มเพื่อนผู้หญิง แต่ถ้าสาวที่คุณกำลังคุยด้วยเป็นผู้หญิงคนเดียวในหมู่ชายหนุ่ม ก็ต้องฉุกคิดบ้างนิดนึงว่า เธอชอบเป็นจุดสนใจของกลุ่มหรือเปล่า หรือรู้สึกดีที่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากคนรอบข้าง เพราะคุณคงไม่ชอบให้ผู้ชายที่ไหนมาเกาะแกะสาวของคุณใช่ไหมล่ะ

ผู้หญิงแบบไหนบ้าง ที่หนุ่ม ๆ ควรถอยห่าง

          - สาวขี้วีน จอมเหวี่ยง

          ธรรมชาตินิสัยของผู้หญิงมักเอาแต่ใจ ชอบงอนและขี้วีนกันอยู่แล้ว แต่ถ้ามีมากเกินไปก็รับไม่ได้นะ ความอดทนของผู้ชายก็มีสิ้นสุดเหมือนกัน หากมาเจอผู้หญิงที่อารมณ์แปรปรวน เอาแต่วีน เอาแต่เหวี่ยงใส่แบบไม่มีเหตุผล ก็คงทนไม่ไหวเข้าสักวัน จนต้องยอมตัดใจเลิกราไปอยู่ดี ต่อให้รักมากแค่ไหนก็เถอะ

          - สาวขี้ตืด ที่เอาแต่เกาะคุณเกิน

          เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ชายจะต้องคอยพาแฟนสาวไปทานข้าวและช้อปปิ้ง แต่ไม่ได้แปลว่าคุณจะต้องเอาใจเธอด้วยการออกเงินค่าอาหารหรือซื้อของให้ทั้ง หมดนะ ถ้าผู้หญิงที่เขามีนิสัยแฟร์ ๆ ก็ต้องช่วยคุณจ่ายอยู่แล้ว ซึ่งถ้าเธอทำเนียน นิ่งเฉยไม่ออกตัวจะช่วยคุณเลย ก็บอกลาเธอไปดีกว่า คบไปก็มีแต่จนกับเจ๊ง

          เอาล่ะ เมื่อเพื่อน ๆ ได้ทราบถึงลักษณะของสาว ๆ ที่คุณควรหลีกเลี่ยงไปแล้ว ต่อไปจะคบใครก็ดูให้ดี ๆ ลองเอาข้อมูลที่เรานำมาฝากไปพิจารณาด้วยก็ได้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครในโลกนี้สมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่าง แต่ละคนก็มีข้อดีข้อเสียที่ต่างกัน อยู่ที่ว่าคุณจะปรับตัวและหาทางอยู่ร่วมกันได้หรือเปล่า...นี้แหละสำคัญที่ สุด