เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม คุณ
เคยรู้สึกไหมว่า...ตอนคบกันใหม่ ๆ ไม่ว่าคุณจะพูดอะไรเขาก็ตั้งใจฟังอย่างดี
จะให้หันซ้ายหันขวาก็ทำได้หมด ซึ่งมันช่างแตกต่างกับตอนนี้จริง ๆ
เพราะเดี๋ยวนี้นอกจากจะไม่ยอมฟังแล้ว ยังทำท่าจะเดินหนีซะอีก -_-' แต่
เอ...คุณรู้หรือเปล่าว่าที่เขามีปฏิกิริยาแบบนั้น...เป็นเพราะอะไร?
ก็เป็นเพราะตัวคุณเองนั่นแหละ
ถ้าคุณกำลังสงสัยว่าทำไมเขาถึงเดินหนีคุณทุกครั้งที่คุณกำลังจะพูดล่ะก็
วันนี้กระปุกดอทคอมมีคำตอบมาฝากกันจ้า...
1. ต้องเข้าข้างคุณเท่านั้น
เหตุผลที่เขาไม่ฟังสิ่งที่คุณพูด
นั่นเพราะว่าทุกครั้งที่คุณพูดเรื่องอะไรก็ตาม ทั้งเรื่องงาน เรื่องเพื่อน
หรือเรื่องรอบ ๆ ตัว คุณมักจะหาเหตุผลมาเข้าข้างตัวเองเสมอ
และมักจะคาดหวังว่าแฟนของคุณจะต้องเข้าข้างคุณด้วย ทั้ง ๆ
ที่บางเรื่องก็เห็น ๆ กันอยู่ว่าคุณเป็นคนทำผิด ดังนั้น
ถ้าคุณอยากให้เขาหันกลับมาฟังคุณล่ะก็
ตัวคุณเองก็ต้องยอมรับฟังความคิดเห็นของเขาด้วยเหมือนกัน
2. รายละเอียดของเรื่องเยอะเหลือเกิน
ตามนิสัยปกติของผู้ชายแล้ว เขาไม่อยากจะรู้หรอกว่าใครเป็นใคร มีปัญหาอะไร
เกี่ยวข้องกับคุณยังไง แต่สิ่งที่เขาอยากจะฟังจากปากของคุณ คือ ปัญหาจริง ๆ
ที่เกิดขึ้น ดังนั้น ถ้าคุณจะถามความคิดเห็น
หรือคุณต้องการเล่าอะไรให้เขาฟังล่ะก็ พูดเข้าประเด็นไปเลย เอาแบบสั้น ๆ
กระชับและเข้าใจง่าย เขาจะได้ไม่ต้องปวดหัวปะติดปะต่อเรื่องอีก
3. มักจะพูดข่มเสมอ
ทุกครั้งที่เปิดบทสนทนา คุณมักจะคุยเรื่องความสามารถของคุณเสมอ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องชีวิตส่วนตัว
ถ้าคุณรู้สึกว่าโปรไฟล์ตัวเองดีเลิศขนาดนี้ ไปหาแฟนใหม่ที่มีความสามารถพอ ๆ
กับตัวคุณดีกว่าไหม เพราะถ้าคนปัจจุบันของคุณดีจริง
คุณคงไม่ต้องพูดข่มเขาตลอดเวลาแบบนี้หรอก
แต่ถ้าหากคุณพูดเพื่อให้เขายอมรับในตัวคุณล่ะก็
ควรเปลี่ยนวิธีมัดใจเขาใหม่จะดีกว่า เช่น ถ้าคุณเก่งเรื่องทำอาหาร
ก็ทำให้เขาเห็นไปเลยว่าฝีมือการทำอาหารของคุณสุดยอดแค่ไหน
4. ร้องขอตลอดเวลา
ถ้าคุณขอร้องอะไรเขาก็เต็มใจทำให้คุณอยู่แล้ว
แต่บางครั้งก็ควรดูความเหมาะสมด้วย ดังนั้น
ก่อนที่คุณจะขอร้องให้เขาช่วยอะไร
ก็ลองถามตัวเองก่อนว่าคุณสามารถทำเองได้หรือเปล่า ถ้าคุณคิดว่าทำไม่ได้จริง
ๆ ก็ค่อยไปขอร้องให้เขาช่วย
แต่ถ้าคุณเห็นแล้วว่าเขากำลังติดธุระหรืออยู่ในช่วงที่ต้องการพักผ่อน
ก็เก็บปัญหานั้นไว้ก่อนแล้วค่อยไปถามเขาทีหลังดีกว่า
5. พูดไม่หยุด
นอกจากจะทำให้สิ่งที่คุณพูดไม่น่าฟังแล้ว
ยังทำให้เขาเบื่อสิ่งที่คุณกำลังพูดอีกด้วย นอกจากนี้
เขาก็จะเริ่มสงสัยว่าตลอดเวลาที่คุณพูด คุณมีเวลาหายใจบ้างหรือเปล่า
ดังนั้น ถ้าคิดจะพูดกับเขาควรสงบจิตสงบใจลงบ้าง ค่อยพูดค่อยจา
และเปิดโอกาสให้เขาแสดงความคิด หรือได้มีโอกาสพูดคุยโต้ตอบกับคุณบ้าง
6. ใช้อารมณ์พูด
ไม่ว่าคุณจะพูดเรื่องอะไร คุณก็ใส่อารมณ์ไปหมดซะทุกเรื่อง หรือเรียกง่าย ๆ
ว่า "เหวี่ยง" นั่นแหละค่ะ
แต่ถ้าคุณไม่บอกเขาก่อนว่าคุณไปโมโหเรื่องอะไรมา
เขาก็ไม่รู้หรอกนะคะว่าคุณกำลังโกรธเรื่องอะไร
และทำไมต้องเก็บอารมณ์มาลงที่เขา ดังนั้น ถ้าคุณกำลังโกรธ
ทำให้ตัวคุณเองใจเย็นก่อนแล้วค่อยเข้าไปคุยกับเขาดีกว่า
พูดจาภาษาจ๊ะจ๋าหรืออินในอารมณ์ให้น้อยลงหน่อย
ก็ทำให้คุณดูน่ารักกว่าตั้งเยอะ
7. อยากให้เขาสนใจเรื่องเดียวกับคุณ
ทั้ง ๆ ที่คุณก็รู้อยู่ว่าเขาชอบเรื่องกีฬามากกว่าเรื่องดารา
และชอบเล่นเกมมากกว่าออกไปเดินช้อปปิ้ง
แต่คุณก็ยังบังคับให้เขาอ่านเรื่องดารา และออกไปเดินช้อปปิ้งกับคุณบ่อย ๆ
เจอแบบนี้เป็นใครก็อยากจะเดินหนี
เพราะถึงแม้เป็นแฟนกันก็ไม่จำเป็นว่าต้องชอบเรื่องเดียวกันสักหน่อย
ปล่อยให้เขาได้ทำในสิ่งเขาชอบดีกว่า
ก่อนที่เขาจะปิดหูปิดตาไม่ใส่ใจคุณไปมากกว่านี้
8. มีเรื่องติเขาได้เสมอ
ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ผิดตลอด แถมยังมีช่องว่างให้คุณติได้เสมอ
ตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่ ๆ
ถ้าคุณรู้ว่าเขาจะทำอะไรให้ผิดใจคุณละก็ ควรบอกเขาไปตั้งแต่เนิ่น ๆ
เลยว่าคุณไม่ชอบให้เขาทำอะไรบ้าง หรือต้องการให้เขาทำอะไรบ้าง เช่น
คุณให้เขาไปซื้อของ ก็ระบุไปเลยว่าต้องการอะไรบ้าง แบบไหน ขวดสีอะไร
ยี่ห้อไหน ให้เขารู้สึกว่าได้ทำอะไรที่ถูกใจคุณยังไงล่ะ
อ่าน
จบแล้วก็ลองนั่งคิดนอนคิดดูแล้วกันนะคะว่า
คุณมีพฤติกรรมแบบนี้กันบ้างหรือเปล่า ถ้ามีก็รีบแก้ไขซะ
อย่าลืมว่าผู้ชายเขาก็อยากจะฟังคำพูดดี ๆ เพราะ ๆ จากปากคนรักอยู่แล้วนะ
อย่าให้เขาเปลี่ยนคำว่ารัก...เป็นคำว่าเกลียดเลยค่ะ