ใช้เงินอย่างไรให้ชีวิตรักยืนยาว (Bride Magazine)เรื่อง : Red Wine
เมื่อคนสองคนได้แต่งงานและกล่าวคำปฏิญาณซึ่งกันและกันแล้ว
นาฬิกาแห่งการใช้ชีวิตคู่ก็ได้เริ่มเดินนับตั้งแต่นั้น
การที่คนสองคนจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันต่อไป
เรารู้กันอยู่แล้วว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย
ความซื่อสัตย์และความจริงใจต่อกันนั้นอาจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
แต่การที่จะให้ครอบครัว "อยู่รอด" และ "มั่นคง" ได้ อาจมีมากกว่าเรื่องของหัวใจที่ต้องดูแล การ
วางแผนการเงินของคู่รักเป็นเรื่องที่คู่แต่งงานต้องคำนึงถึงเป็นอันดับต้น ๆ
โดยเฉพาะกับครอบครัวที่เป็นคนทำงาน
ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้มีทรัพย์สมบัติเป็นมรดกตกทอดมหาศาล
คู่สมรสต้องรู้ว่าการใช้ชีวิตแบบเดิมอย่างการใช้เงินให้หมดไปเป็นเดือน
ซื้อของตามใจชอบจนไม่เหลือเงินเก็บนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น
ยิ่งหากวางแผนว่าจะมีลูกน้อยเมื่อไหร่แล้วด้วยนั้น
ยิ่งเป็นเรื่องที่น่าคิดว่าคุณควรต้องมีอะไรบ้างก่อนที่เจ้าน้อยจะลืมตามาดู
โลก ควรต้องมีบ้านหรือไม่? ควรต้องมีรถหรือเปล่า?
หรือรอสร้างกิจการส่วนตัวก่อนค่อยมีลูก
ทุกเรื่องล้วนเป็นเรื่องที่คู่รักต้องมานั่งจับเข่าคุยกันให้เป็นเรื่องเป็น
ราว และไม่ว่าคุณจะวางแผนชีวิตครอบครัวของคุณไว้อย่างไรทุกอย่างล้วนต้องใช้
"เงิน" ในการที่จะให้มันเกิดผลเป็นรูปธรรมทั้งนั้น
การขาดแคลนปัจจัยที่สำคัญยิ่งนี้ล้วนเป็นบ่อเกิดของปัญหาและความตึงเครียด
ภายในและทำให้หลายครอบครัวต้องล้มเหลวมาแล้วมากมาย
การออมเงิน
ทั้งสองคนควรวางแผนการออมเงินของตัวเองก่อนเป็นลำดับแรก
โดยคำนวณรายได้ของตัวเองในแต่ละเดือนกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องจ่ายในทุก ๆ
เดือน ว่าตัวเองมีความสามารถที่จะเก็บเงินได้มากน้อยขนาดไหน
ที่สำคัญคือต้องทำให้ได้ในทุก ๆ เดือน อย่างน้อยควรเก็บให้ได้ 15%-20%
ของรายได้ พยายามลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย
หรือถ้าให้ดีก็ควรทำการฝากเงินแบบฝากประจำกับธนาคารที่มั่นคงเชื่อถือได้
เพื่อเป็นการควบคุมวินัยในการเงินของตัวเอง และได้รับผลตอบแทนที่ดีด้วย
การใช้เงินสด
แม้จะต้องออมเงิน แต่ทุกคนก็ต้องมีเงินสดในการจับจ่ายใช้สอย
ไม่ใช่เก็บจนไม่มีใช้ ต้องไปใช้เงินสดของคู่รักอยู่บ่อย ๆ
ในทางกลับกันก็อย่าตระหนี่ถี่เหนียวจนเกินไป
เพราะคุณอาจสร้างความเบื่อหน่ายให้กับคู่ของคุณได้
โดยเฉพาะหากต้องมีของใช้จำเป็นที่ต้องซื้อเงินสดด้วยกัน เช่น อาหาร
เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ใช้สอยภายในบ้าน ฯลฯ ให้พิจารณาว่าควรซื้อหรือไม่ควร
คุณมีส่วนช่วยออกเงินได้กี่เปอร์เซ็นต์
อย่าหวังพึ่งการใช้บัตรเครดิตให้มากจนเกินไป
เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ไม่ควรสร้างหนี้สินในอนาคตกับเรื่องที่ไม่จำเป็น
การมีเงินสดที่เพียงพอมีส่วนในการสร้างความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ในสัมพันธภาพ
แม้แต่งงานกันแล้วคุณก็ควรมีเงินพอที่จะไปดินเนอร์ ดูหนัง
ท่องเที่ยวในวันหยุดให้เหมือนกับชีวิตก่อนแต่งงาน
หรือแม้แต่ในเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพ โรคภัยไข้เจ็บ
ก็ควรมีเงินสำรองไว้เช่นกัน
การกู้เงิน
ในหัวข้อที่แล้วเราเพิ่งพูดถึงเรื่องที่คู่รักไม่ควรสร้างหนี้สิน
แต่ในความเป็นจริงคู่รักที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวอาจจำเป็นที่ต้องกู้ยืม
เงิน เพื่อสร้างภาพฝันให้สำเร็จ เช่น ซื้อบ้านหลังแรก ซื้อรถครอบครัว
ลงทุนเพื่อสร้างกิจการ หรือแม้แต่เรื่องการศึกษาของลูก
ดังนั้นการกู้เงินควรพิจารณาว่าพอดีกับรายได้ของทั้งคู่หรือไม่
และควรกู้เงินกับสถาบันการเงินที่เชื่อถือได้เท่านั้น
อย่ากู้เงินนอกระบบโดยเด็ดขาด เพราะการทวงหนี้ของแหล่งเงินกู้เหล่านั้น
อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตครอบครัวของคุณได้ สรุปแล้วก็คือ
หากต้องกู้ยืมเงินก็ควรเป็นเรื่องที่จำเป็นจริง ๆ
และมีผลดีต่อครอบครัวในอนาคต
การแบ่งหน้าที่ทางการเงิน
การแบ่งหน้าที่ในการใช้จ่ายเงินระหว่างคนสองคนมีรูปแบบหลากหลาย
และขึ้นอยู่กับการตกลงกันภายใน
แต่การแบ่งหน้าที่อย่างไม่ถูกต้องก็อาจทำให้เกิดปัญหาชีวิตคู่ตามมา
ทั้งนี้การแบ่งหน้าที่ขึ้นอยู่กับการมีรายได้ของแต่ละครอบครัวด้วย เช่น
ผู้ชายทำงาน ผู้หญิงลาออกจากงานเป็นแม่บ้านเพื่อเลี้ยงลูก
หรือทั้งผู้หญิงและผู้ชายทำงานประจำด้วยกันทั้งคู่
การแบ่งหน้าที่ก็จะแตกต่างกันออกไป
บางครอบครัวใช้การรวมรายได้ของทั้งคู่ไว้ที่กองกลางโดยมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
เป็นผู้ดูแล แม้จะเป็นการขจัดปัญหาการใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย
แต่วิธีการนี้โดยส่วนใหญ่จะก่อให้เกิดความตึงเครียดในภายหลัง
ทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งในที่สุด ทางที่ดีทั้งคู่ควรรู้หน้าที่ของตัวเอง
แบ่งกันว่าใครใช้จ่ายเรื่องอะไรภายในบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าบ้าน
ค่าผ่อนรถ ฯลฯ และออมเงินของตัวเองไว้อย่างมีวินัย
ส่วนคนที่ไม่มีรายได้ก็ต้องจัดสรรเงินที่อีกฝ่ายมอบให้อย่างคุ้มค่าที่สุด
การประกัน
การประกันมี 2 อย่าง คือ การประกันชีวิตและทรัพย์สิน
ซึ่งเป็นสิ่งที่เรามองข้ามไปไม่ได้
จากข่าวสารที่เราได้รับจะเห็นได้ว่ามีเรื่องราวไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ
เราควรดูแลชีวิต ทรัพย์สิน และหลักทรัพย์ของเราให้ดี
ซึ่งการทำประกันชีวิตเป็นการช่วยลดความเสี่ยงและเสียหายในส่วนนี้ไปได้มาก
ในปัจจุบันมีการประกันชีวิตหลายแบบ โดยเฉพาะแบบที่เหมือนเป็นการออมไปในตัว
ซึ่งเรียกว่าการทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
ทั้งนี้ควรศึกษาเรื่องเงื่อนไขให้ดีก่อนตัดสินใจ
อย่าให้การเสียค่าประกันในแต่ละเดือนกระทบกับรายได้ของครอบครัวให้มากนัก
เพราะกว่าจะนำเงินออกมาใช้ได้ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร
หากไม่มีรายได้มากพอหรือมีภาระอื่น ๆ
อยู่มากก็ทำประกันชีวิตแบบธรรมดาไปก่อน
ส่วนการประกันทรัพย์สินให้ทำไว้เพื่อคุ้มครองทรัพย์สินใหญ่ ๆ
ทั้งที่เป็นของตัวเองแล้ว และที่กำลังผ่อนจ่ายอยู่ โดยเฉพาะบ้านและรถ
เมื่อ
คุณทั้งคู่ดูแลเรื่องของการเงินได้ดี ก็ควรจะทำให้รากฐานของครอบครัวมั่นคง
แต่ถึงอย่างไรก็อย่าลืมดูแลหัวใจซึ่งกันและกัน
เติมเต็มความหวานความใส่ใจให้เหมือนตอนที่ยังรักกันใหม่ ๆ ด้วยนะคะ
No comments:
Post a Comment